SENA : บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

เป็นบริษัทที่น่าสนใจนะครับ ดูจากงบการเงินแล้วถือว่าไม่เลว ราคายังต่ำกว่า book value ถ้าใครกำลังมองหาหุ้นอสังหาริมทรพัย์ ก็น่าจะลองพิจารณาดูนะครับ
เวบของบริษัท http://www.senadevelopment.com/2011/TH/home/
งบการเงิน
http://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=SENA&language=th&country=TH

EASTW : บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน)

ลองเข้าไปดูข้อมูลตามลิงค์นี้ครับ
http://marketdata.set.or.th/mkt/stockquotation.do?symbol=EASTW&language=th&country=TH

METCO : บริษัทมูราโมโต้ อีเล็คตรอน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

ดูจากงบแล้วกำไรดีมาก เลยอยากมาแนะนำครับ แม้ว่าราคาจะแพงไปสักหน่อย แต่ก็ยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีอยู่ดี และน่าจะปันผลประมาณ 6.61% หาจังหวะที่ตลาดราคาลงแล้วเก็บไว้ ถือไว้ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ลองมาดูงบการเงินกัน

ขออนุญาตเชียร์ MJD นิดนึงครับ

จากช่วงที่ผ่านมาราคาของ MJD ตกลงมามากพอสมควรเลยครับ ซึ่งไม่น่าจะตกมากกว่านี้แล้ว
แล้วตอนนี้ก็เข้าเดือนธันวาคมแล้วครับเป็นเดือนที่หุ้นไม่ค่อยตก ถ้ามไม่มีข่าวอะไรที่เลวร้ายจริงๆ

ในมุมมองผมคิดว่าราคาของ MJD ตอนนี้น่าสนใจครับเพราะต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี แม้ว่ากำไรในไตรมาสล่าสุดนี้จะไม่ค่อยดีนัก เรียกได้ว่าแย่ แต่ถ้าดูจากงบแล้วหนี้ก็ลดลงน่าจะมีสภาพคล่องเพิ่มมากขึ้น แล้วโครงการต่างๆ ที่ MJD ทำก็น่าจะไปได้ ไม่น่ามีปัญหาอะไรแรงๆ ผมจึงคิดว่าราคาที่ลดลงมาทำให้น่าสนใจเข้ามาซื้อเก็บไว้ครับ

ส่วนใหญ่แล้วเดือนธันวาคมหุ้นไม่ค่อยตกหรอกครับ ทำไมเหรอครับ เพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่หลายคนจะแห่กันทำประกันหรือซื้อกองทุนระยะยาวเพื่อนำไปลดภาษี บริษัทพวกนี้ก็จะมีเงินเข้ามามากกว่าปกติ แล้วเงินจะไหลไปไหนล่ะครับถ้าไม่ใช่ตลาดหุ้น ดังนั้นปลายเดือนจะมีเงินไหลเข้ามาตลาดหุ้นแน่นอน แต่จะไหลไปเข้าหุ้นตัวไหนอันนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไป...

หุ้นตกแล้วครับ

ช่วงนี้หุ้นตกแล้วครับ ถ้าเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ก็ควรแก่การซื้อนะครับ จะซื้อไว้ขายทำกำไรหรือซื้อถือระยะยาวอันนี้ก็แล้วแต่ชอบครับ อย่างไรก็ดีรอสัญญาณให้ขึ้นก่อนนะครับ ถ้าคาดไม่ผิดน่าจะเป็นช่วงปลายสัปดาห์นี้หรือปลายสัปดาห์หน้า ถ้าตกยาวกว่านั้นเข้าเดือนธันวาเมื่อไหร่ก็น่าจะซื้อได้เลยครับ

Bangkok dangerous

การทยานขึ้นของหุ้นในช่วงนี้เป็นอะไรที่ทำให้รู้สึกน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง หลายแหล่งข่าวให้ทัศนะที่ค่อนข้างตรงกันว่าเป็นการเก็งกำไรจากนักลงทุนและกองทุนต่างชาติ ทั้งในค่าเงินและตลาดหุ้นของประเทศไทย ดูจากรูปข้างล่างจะเห็นว่าเงินที่เข้ามาในตลาดหุ้นมาจากต่างประเทศ

จากข้างต้นแล้ว หากใครคิดจะลงทุนในตลาดหุ้นตลาดเงินในช่วงนี้ ก็ต้องระวังตัวให้ดีมากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ เพราะอาจจะเจ็บตัวอย่างแสนสาหัสได้ วิธีการที่น่าจะช่วยลดความเสี่ยงได้ดีที่สุด คือ การวิเคราะห์พื้นฐานหุ้นให้ดีที่สุด ว่าหุ้นตัวที่เราจะซื้อนั้นมีพื้นฐานดีจริงๆ ใช่ไหม กล่าวคือมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องใช่ไหม ทำกไรได้ต่อเนื่องใช่ไหม สามารถปันผลได้ต่อเนื่องใช่ไหม และปัจจัยเรื่องผู้บริหารก็สำคัญ ผู้บริหารของบริษัทนั้นๆ บริหารด้วยความชาญฉลาดใช่ไหม ไม่ใช่ละโมบโลภมากใช่ไหม เป็นผู้บริหารที่มองการณ์ไกลใช่ไหม มีการวางแผนรับมือความผันผวนที่จะเกิดขึ้นอย่างดีหรือเปล่า เป็นต้น

ไม่ได้ขู่ให้กลัวนะครับ ใครคิดจะซื้อหุ้นช่วงนี้คิดให้หนักครับ ศึกษาข้อมูลให้เยอะๆ ครับ

จะได้ไม่ต้องร้องเพลงของพี่อ๊อฟ พงพัฒน์ "เจ็บนี้อีกนาน เจ็บนี้ไม่ลืม..."

ขอพระเจ้าอวยพรให้ทุกท่านสามารถเอาชนะใจตัวเองได้ครับ

ตัวอย่างหุ้น PTL

วันนี้เอาตัวอย่างหุ้นมาให้ดูครับว่าถ้าซื้อไว้ล่วงหน้าก่อนถึงวันปันผลจะได้กำไรเท่าไหร่ สมมติว่าซื้อล่วงหน้า 1 เดือนนะครับ หุ้นตัวที่จะให้ดูตัวอย่างชื่อว่า PTL ปันผลไปเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2010 ที่ผ่่านมานี่เองครับ

เราซื้อล่วงหน้า 1 เดือนคือวันที่ 28 เดือนมิถุนายน จะได้ที่ราคาประมาณ 8.15 บาท แล้วมาขายวันที่ 27 กรกฏาคม ที่ราคา 11.70 แค่นี้ก็กำไร 3.55 บาท คิดเป็น 43.56% สุดยอดไหมครับ ถ้าขายไม่ทันตัวนี้ก็ราคาเพิ่มไปเป็น 12.60 บาท ยิ่งกำไรเข้าไปใหญ่ แถมได้ปันผลอีกด้วย แต่ไม่ใช่ว่าทุกตัวจะเป็นอย่างนี้นะครับ

ข้อสังเกตุ หุ้น PTL เป็นหุ้นที่มีการเติบโตทั้งในเรื่องของทรัพย์สินและกำไร ทำให้น่าลงทุนเป็นอย่างมาก ราคาจึงไม่ตกลงแม้ว่าจะเลยวันปันผลมาแล้วก็ตาม ถ้ามั่นใจเรื่องการเติบโตจะถือยาวก็ไม่ว่ากันครับ

หวังว่าตัวอย่างนี้คงทำให้ใครหลายคนอยากลงทุนในหุ้นมากขึ้นนะครับ แต่ต้องเตือนไว้ก่อนเลยว่าการลงทุนในหุ้นไม่ใช่การเสี่ยงโชค แต่เป็นอะไรที่เราต้องวิเคาระห์หุ้นตัวยั้นอย่างละเอียดรอบคอบ ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน สิ่งที่สำคัญที่สุด วิเคราะห์พื้นฐานของหุ้นตัวนั้นๆ ให้ดีๆครับ

ขอพระเจ้าอวยพรในการลงทุนของทุกคนครับ